เคยปฏิเสธการช่วยเหลือ แล้วตนเองรู้สึกผิดไหม

เคยปฏิเสธการช่วยเหลือ แล้วตนเองรู้สึกผิดไหม

เคยไหม? ที่แม้ว่าเขาจะจากไปนานแล้ว แต่พอได้ยินเรื่องราว ความทรงจำในอดีตหวนกลับมาเล่นงาน ราวกับฉากหนังที่ฉายซ้ำไปซ้ำมา ล่าสุดคนในครอบครัวเขาขอความช่วยเหลือ ปฏิเสธไปนะแต่สุดท้ายเรามานั่งคิดมากโทษตัวเองว่าใจร้าย ความรู้สึกผิดก็ถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว

อยู่โลกออนไลน์กับความรู้สึกที่ซับซ้อน

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอยากยกเลิกบล็อก เข้าไปส่องความเคลื่อนไหวของคนที่เราเคยรู้จัก แม้ว่าเขาจะไม่อยู่แล้วก็ตาม แต่ไม่กล้าติดต่อทักหาเพราะกลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริง ทำให้เราได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกไว้ และระบายมันออกมาในกลุ่มแชทส่วนตัวกับเพื่อน

สมองสองด้านกับความรู้สึกที่ขัดแย้ง

ได้แตฝืนทนกลั้นน้ำตาไว้ ที่ในตอนนี้รู้สึกว่าความคิดของผมกำลังตีกันระหว่าง "หยุดคิดถึง" กับ "คิดถึงเหลือเกิน" เจ็บปวดราวกับว่าวิญญาณหลุดออกจากร่าง ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกที่ซับซ้อน ที่หลายคนต้องเผชิญเมื่อสูญเสียใครสักคน

ไม่ใช่แค่อกหัก แต่เป็นความรู้สึกผิด

เมื่อได้สติกลับคืนมา เราอาจพบว่าความรู้สึกนี้ไม่ใช่แค่อาการอกหัก แต่เป็นความรู้สึกผิดที่กัดกินใจ ที่เราไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในวันที่เขายังมีชีวิตอยู่

"แม่งอ่อนแอว่ะ" คำพูดที่สะท้อนความรู้สึก

คำพูดนี้อาจเป็นคำพูดที่หลายคนใช้ เพื่อปกป้องตัวเองจากความอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริง มันคือการยอมรับว่าเราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกผิด ความเสียใจ และความอ่อนแอได้

วิธีรับมือกับความรู้สึกผิดของผม

  • ยอมรับความรู้สึก: อย่าพยายามปฏิเสธความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้น ปล่อยให้ตัวเองได้รู้สึกและเรียนรู้จากมัน
  • ให้อภัยตัวเอง: เข้าใจว่าเราทุกคนล้วนมีข้อจำกัด และไม่สามารถช่วยเหลือทุกคนได้ตลอดเวลา
  • ทำสิ่งดีๆ เพื่อรำลึกถึงเขา: อาจเป็นการบริจาคเงิน ทำบุญ หรือทำกิจกรรมที่เขาเคยชอบ
  • พูดคุยกับคนที่เข้าใจ: การระบายความรู้สึกกับเพื่อน คนในครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้เราก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้

สุดท้ายความรู้สึกผิดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน สิ่งสำคัญคือการยอมรับ เรียนรู้ และก้าวผ่านมันไปให้ได้ อย่าปล่อยให้ความรู้สึกผิดมาทำร้ายตัวเอง แต่จงใช้มันเป็นบทเรียน เพื่อที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นในอนาคต

เคยปฏิเสธการช่วยเหลือ แล้วตนเองรู้สึกผิดไหม

ความคิดเห็น