
ภาพความรู้สึกบางอย่างควรค่าแก่การจดจำ แม้จะไม่สามารถครอบครองได้ แต่ก็ยังดีที่รู้ว่า...มันเคยเกิดขึ้นจริง
จำได้เลย เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 10 มกราคม 2567 กำลังนั่งรถกลับจากไปทำงานวิจัย ตอนนั้นเย็นย่ำ พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนสีเป็นส้ม ๆ ดำ ๆ ลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ๆ เข้ามาในรถ พร้อมกับเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนใจมันได้คุยกับตัวเองอ่ะ แล้วในหัวก็แว๊บขึ้นมา... "ใจมนุษย์ทำไมดำยิ่งนัก จากไปไม่มีแม้แต่คำลา"
ความรู้สึกตอนนั้นมันแบบ... จุก ๆ บอกไม่ถูก ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่า เออ สรุปที่ผ่านมาคืออะไรวะ เราเคยรู้จักกันจริง ๆ เหรอเนี่ย? แล้วก็ได้แต่ภาวนาในใจ มองพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้าว่า "ขอให้ตัวเองมีกำลังใจที่เข้มแข็ง เหมือนแสงอาทิตย์ที่ยังไงก็ต้องกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง"
รถแล่นผ่านสะพานข้ามคลองไป พระอาทิตย์ก็หายลับไปจากสายตา เหมือนเรากำลังข้ามไปอีกมิติหนึ่งเลยอ่ะ เป็นมิติที่ความทรงจำเก่า ๆ มันผุดขึ้นมาเต็มไปหมด แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เมื่อปีที่แล้ว แม้จะต้องแลกกับอะไรบางอย่างก็ยอม"
เคยมีคนบอกว่า ถ้าเราทำทุกอย่างให้ดีที่สุดในวันนี้ พรุ่งนี้เราก็คงไม่ต้องมานั่งเสียใจกับอะไร แต่ตอนนั้นมันก็ตอบความรู้สึกตัวเองแบบนั้นแหละเนอะ... พอเวลาผ่านไปครบปี เสียงในใจวันนั้นมันยังก้องอยู่ในหู บางทีความรู้สึกบางอย่างเราก็แค่อยากพูดออกมาเฉย ๆ ไม่ได้ต้องการให้ใครเข้าใจ แค่ได้ระบายออกมามันก็เหมือนได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างในใจแล้ว
แล้วเราก็ต้องคอยให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอแหละ "เรามันเก่งในแบบของเรานี่แหละ เก่งที่อดทนกับเรื่องแย่ ๆ ที่ผ่านมาได้ตั้งเยอะตั้งแยะ ก็เพราะเรามีคุณค่าไง แค่บางทีเราเหนื่อยจนลืมมันไปเท่านั้นเอง"
พอกลับมาดูรูปที่ถ่ายไว้วันนั้นอีกที คราวนี้มองท้องฟ้าสีทองแล้วมันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มันโหยหาอะไรบางอย่าง... เวลาสอนให้เรารู้ว่า บางความสัมพันธ์มันไม่ได้ต้องการอะไรมากมายเลยจริง ๆ แค่มีโอกาสได้บอกคิดถึงกัน มีพื้นที่ให้ได้เยียวยาหัวใจกัน ได้ซัพพอร์ตกัน แค่นั้นมันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและดีมากๆ แล้ว
สุดท้ายนี้... บางความรู้สึกอาจเป็นเหมือนแสงอาทิตย์ยามเย็น สวยงามจับใจ แต่ก็รู้ว่าไม่อาจเก็บไว้ได้ตลอดกาล สิ่งที่เราทำได้คือจดจำความรู้สึกดี ๆ นั้นไว้ เพราะอย่างน้อย... ครั้งหนึ่งมันก็เคยส่องสว่างในใจเรา.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น